Wal-Mart Grapples with RFID
WAL-MARTต่อสู้ กับการบกวนของคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่
(RFDI)1 ก.พ. 2005 วอลมาร์ทเริ่มต้นบทบาทครั้งแรกกับการใช้การรบกวนของคลื่นวิทยุในหลายๆความ ถี่ (RFDI)ใน 7 ร้านค้าในเท็กซัส วอลมาร์ทได้สั่งให้ผู้จัดหาอันดับต้นๆให้วางการรบกวนของคลื่นวิทยุในหลายๆ ความถี่ (RFDI) ติดตามสินค้าทุกชนิดที่ถูกส่งไปยังศูนย์กระจายสินค้าวัตถุประสงค์คือ ลดสินค้าในสต็อคโดยตรวจสอบสถานที่ของสินค้าอย่างถูกต้องมากขึ้นเหมือนสินค้า ถูกเคลื่อนย้ายจากท่าเรือรับสินค้าไปสู่ชั้นวางสินค้าวอลมาร์ท ต้องการตัวอ่านการรบกวนของคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ถูกติดตั้งในการบันทึก ข้อมูลที่ถูกส่งโดยปลายทางของคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI) ตัวอ่านข้อมูลนี้จะอ่านสิ่งต่อท้ายเป็นครั้งที่สอง
เช่น บรรจุหีบต่างๆถูกส่งจากบริเวณห้องเก็บของหลังห้องไปยังชั้นของแผนกขาย ซอฟท์แวร์นี้จะใช้ข้อมูลการขายจากระบบจุดการขายของวอลมาร์ท และข้อมูล คลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)ที่เกี่ยวกับจำนวนบรรจุหีบต่างๆที่ถูกส่งไปเปิดเผยของชั้นแผนกขายไป แก้ไขปัญหาว่าสิ่งใดจะเสร็จสิ้นลงและสร้างรายชื่อสิ่งของอย่างอัตโนมัติใน การเลือกเติมสินค้าให้เต็มชั้นวางในคลังสินค้า ข้อมูลนี้จะช่วยให้วอลมาร์ทลดการสต็อกสินค้า,เพิ่มยอดขาย
และ ลดต้นทุนวอลมาร์ทกำลังแบ่งข้อมูล ทั้งหมดกับซัพพลายเออร์ผ่านระบบระบบรีเทลลิ้งเอ็กซ์ตร้าเน็ท คลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)ปรับปรุงการจัดการรายการสินค้า เนื่องจากซัพพลายเออร์รู้อย่างถูกต้องว่าสินค้าตั้งอยู่ที่ไหนภายใน30
วินาทีจากที่ใดของวอลมาร์ทไปยังอีกที่หนึ่ง ยอดขายดีขึ้นเนื่องจากระบบจัดการให้วอลมาร์ทมีสินค้าในสต็อกทั้งๆที่คุณ ประโยชน์เหล่านี้ การใช้คลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)ไม่เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ในช่วงปลายปี
ค.ศ.2004 วอลมาร์ท อุปสงค์ดั้งเดิม ซัพพลายเออร์ที่ต้องแนบส่วนท้ายของคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)
ที่จำนวน
65% ของสินค้า ถึงแม้ว่าซัพพลายเออร์ไม่ทั้งหมด สามารถยินยอมแค่
30% ที่ทำจากเทคโนโลยีส่วนใหญ่และการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทางธุรกิจในการ บูรณาการคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)ไปสู่โครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศแลระบบข้อมูลข่าวสาร จำนวนที่เหลือกำลังปฏิบัติสิ่งที่เรียกว่า ตบหน้าและส่ง
ติดส่วนท้ายของ คลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)กับจำนวนเล็กน้อยของบรรจุหีบต่างๆและพาเลทที่ถูกทำเครื่องหมายไว้สำ หรับวอลมาร์ท คุณประโยชน์เหล่านี้ไม่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่คืบหน้าให้แก่ระบบเพื่อว่า พวกเขาสามารถใช้ข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นโดยคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่
(RFDI)ดึงสินค้าคงคลังออกมาทำไมซัพพลายเออร์ทั้งหลายต่างต่อต้านการใช้คลื่น วิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)?นักวิเคราะบางอุสาหกรรมเชื่อว่า วอลมาร์ทพยายามบังคับให้ซัพพลายเออร์ในการใช้คลื่นวิทยุในหลายๆความถี่
(RFDI)ก่อนที่เทคโนโลยีใช้การได้และคุ้มค่าคุ้มราคา“พวกเราไม่มีกรณีศึกษา ทางธุรกิจสำหรับคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่(RFDI)” กล่าว อ้างโดยผู้บริหารซัพพลายเชนให้กับหนึ่งในผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคใหญ่ที่ สุดในโลก “เนื่องจากมาตรฐานไม่สมบูรณ์แบบ เครื่องมือไม่พัฒนา ผมไม่สามารถเติมเต็มและตอบสนองความต้องการของวอลมาร์ทได้”ส่วนท้ายของคลื่น วิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)ในปี 2005 เพิ่มต้นทุนให้แก่ซัพพลายเออร์ระหว่าง
25และ
75 เซ็นต์ ยังคงแพงเกินไป การติดป้ายชื่อคลื่นวิทยุในหลายๆความถี่
(RFDI)หีบห่อบรรจุสินค้าอาจเพิ่มต้นทุนให้แก่ซัพพลายเออร์อย่างง่ายดายถึง
40-50 เซ็นต์ต่อหีบห่อ ต่อหนึ่งป้ายสินค้าราคาประมาณ 20-30 เซ็นต์ ซัพพลายเออร์รายใหญ่กล่าวว่าบรรจุภัณฑ์และพาเลทจำนวน15ล้านหีบที่ถูกส่งไป ยังวอลมร์ทแต่ละปีจะใช้เงินเพิ่มอีก 6 ล้านดอลล่าในการใช้ป้ายราคาวอลมาร์ทต้องการหีบห่อทั้งหมดบนพาเลทที่มีป้าย ราคาและไม่ต้องแยกระหว่างหีบห่อที่บรรจุวิดีโอเกมส์หรือยาสีฟัน การติดป้ายราคาที่มีการใช้คลื่นวิทยุในหลายๆความถี่ (RFDI)จะเป็นการเพิ่มต้นทุนให้แก่ซัพพลายเออร์สินค้าที่มีต้นทุนต่ำมากกว่า ซัพพลายเออร์สินค้าที่มีต้นทุนสูงนอกจากนี้ป้ายชื่อRFDI โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนิดที่แพงน้อยที่สุด
อาจทำงานอย่างไม่ถูกต้องเหมาะสม เมื่อTagsเป็นของเหลวมโลหะ
หรือวัตถุที่ซึมได้ เด็กๆของKimberly-Clark เช็คสัญญาณคลื่นวิทยุ และยูนิลีเวอร์ก็มีปัญหาเหมือนกันเกี่ยวกับสินค้าที่บรรจุของเหลว เพื่อมั่นใจในความถูกต้องและการปฏิบัติงานที่เหมาะสม ซัพพลายเออร์อาจต้องใช้Tagsที่แพงมากกว่า การบูรณาการข้อมูลRFDIใหม่กับระบบมรดกตกทอดที่ขยายราคาให้แพงขึ้นการยอมรับ ความยากลำบากนี้ วอลมาร์ทกำลังทำงานกับซัพพลายเออร์อย่างส่วนตัวในการช่วยพวกเขาเร่งให้เร็ว ขึ้น ปัจจุบันวอลมาร์ทมีซัพพลายเออร์จำนวน300แห่งที่ใช้RFDI
Tags ที่ติดบนหีบสินค้าและพาเลท วอลมาร์ทจำนวนมากกว่า 500 สาขาปฏิบัติต่อหีบสินค้าและพาเลทที่ติดRFDI
Tagsจำนวนมากกว่า3ล้านชิ้นต่อสัปดาห์RFID
ช่วยวอลมาร์ทลดจำนวนสต็อคสินค้าในร้านค้าได้30%
ในฤดูใบไม้ผลิปี2005
เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้านี้
ในปี2006 บริษัทวอลมาร์ทคาดหวังที่จะติดตั้งตัวอ่าน RFDIที่ช่องรับและบนชั้นแผนกขายในร้านค้าเพิ่มเติมอีก500สาขา
1. How is RFID technology related to Wal-Mart’s business model? How does it benefit suppliers?
ANS วอล์มาร์ทใช้โปรแกรมระบบการชี้เฉพาะด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (RFID)
ได้สั่งซื้อสินค้าจากผู้จำหน่ายไปยังสถานที่ที่มีการติดป้ายชื่อ RFID
บนผลิตภัณฑ์เพื่อลดรายการสินค้าคงเหลือที่ไม่มีในสต๊อคโดยทำการติดตามรายการ
จากสถานที่ได้แม่นยำมากกว่าสินค้าที่เคลื่อนย้ายมาจากการรับจากอู่เรือไปยัง
ชั้นวางสินค้าในร้านค้า โปรแกรมสามารถใช้ข้อมูลการขายจากระบบ ณ
จุดขายของวอล์มาร์ท และ ข้อมูล RFID แสดงชั้นที่ขายโดยคำนวณรายการที่จะหมด
และสร้างรายชื่อของรายการที่เก็บในคลังสินค้าเพื่อเติมให้เต็มในชั้นวาง
สินค้าของร้านโดยอัตโนมัติ ดั้งนั้น เทคโนโลยี RFID
ช่วยให้วอล์มาร์ทลดรายการสินค้าที่ไม่มีในสต๊อค, เพิ่มยอดขาย
และลดต้นทุนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ประโยชน์กับผู้จัดจำหน่ายข้อมูลของ RFID นำมาปรับปรุงการจัดการสินค้าได้ เพราะทำให้ผู้จำหน่ายทราบว่าสินค้าอยู่ที่สถานที่ไหน จากการเคลื่อนย้ายสินค้าจากสถานที่หนึ่งไปยังร้านวอล์มาร์ทที่เป็นสถานที่ อีกแห่งหนึ่งได้อย่างถูกต้องภายในเวลา 30 นาที , ช่วยในการปรับปรุงยอดขาย เพราะว่าเป็นการแบ่งสรรระบบจากวอล์มาร์ทในเรื่องของการมีผลิตภัณฑ์ในคลัง สินค้า
ประโยชน์กับผู้จัดจำหน่ายข้อมูลของ RFID นำมาปรับปรุงการจัดการสินค้าได้ เพราะทำให้ผู้จำหน่ายทราบว่าสินค้าอยู่ที่สถานที่ไหน จากการเคลื่อนย้ายสินค้าจากสถานที่หนึ่งไปยังร้านวอล์มาร์ทที่เป็นสถานที่ อีกแห่งหนึ่งได้อย่างถูกต้องภายในเวลา 30 นาที , ช่วยในการปรับปรุงยอดขาย เพราะว่าเป็นการแบ่งสรรระบบจากวอล์มาร์ทในเรื่องของการมีผลิตภัณฑ์ในคลัง สินค้า
2. What management, organization, and technology factors explain why Wal-Mart suppliers had trouble implementing RFID systems?
ANS ความต้องการของผู้จำหน่ายในการติดป้ายชื่อ RFID ซึ่งคิดเป็น 65%
ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ซึ่งผู้จำหน่ายทั้งหมดไม่สามารถทำตามได้ มีเพียง 30%
ที่สร้างเทคโนโลยีหลัก และ การเปลี่ยนแปลงกระบวนการทางธุรกิจในการผสมผสาน
RFID เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT และ ระบบสารสนเทศ
การฝึกปฏิบัติที่เรียกว่า “slap and ship” การติดป้ายชื่อ RFID
เป็นอัตราร้อยละที่น้อยมากของรายชื่อทั้งหมดที่มีอยู่ในวอล์มาร์ท
ซึ่งไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบทันที ดังนั้น
จึงต้องใช้ข้อมูลที่สร้างจาก RFID
ที่เกิดขึ้นตามจริงในการติดตามการเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์ และสินค้าคงเหลือ
ธุรกิจที่ใช้ RFID มาตรฐานยังไม่เสร็จสมบูรณ์
และอุปกรณ์ก็ยังไม่ได้รับการพัฒนาผู้จัดจำหน่ายจึงต่อต้าน RFIDE
3. What conditions would make adopting RFID more favorable for suppliers?
ANS 3.1 ควรเริ่มเมื่อเทคโนโลยี RFID
ได้รับการพัฒนาจนถึงจุดที่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับ ทั้งผู้ผลิตและผู้
บริโภคว่าไม่มีผลกระทบใดๆต่อสุขภาพ
รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงในแง่ของต้นต่อหน่วยให้ลดต่ำลงเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบ
ต่อราคาสินค้ามากนัก
3.2 Wal-Mart ควรมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการติดตั้งและการ บังคับให้ใช้ระบบ RFID ซึ่งจะใช้วิธีการใดก็ได้เพื่อให้เป็นธุรกิจแบบ Win-Win
3.2 Wal-Mart ควรมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการติดตั้งและการ บังคับให้ใช้ระบบ RFID ซึ่งจะใช้วิธีการใดก็ได้เพื่อให้เป็นธุรกิจแบบ Win-Win
4. Should Wal-Mart require all its suppliers to use RFID? Why or why not? Explain your answer.
ANS วอล์มาร์ทต้องการให้สินค้าทั้งหมดที่อยู่ในที่วางสินค้ามีการติดป้ายชื่อ
RFID ซึ่งจะไม่ต้องจำแนกความแตกต่างระหว่างกล่องที่บรรจุวิดีโอเกม หรือ
บรรจุยาสีฟัน ซึ่งการติดป้าย RFID
มีส่วนทำให้ต้นทุนของผู้จำหน่ายสินค้าต่อรายการลดลงได้อย่างชัดเจน ซึ่ง
RFID จะช่วยให้วอล์มาร์ทลดการค้าขายสินค้าที่ไม่มีในสต๊อคในร้านค้าลงได้ถึง
30% ในปี 2005 เมื่อเทียบกับเมื่อต้นปีที่แล้ว และในปี 2006
บริษัทคาดว่าจะติดตั้งตัวอ่าน RFID ที่อู่เรือรับสินค้า และบนชั้นขายอีก
500 ร้านค้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น